จบจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีประสบการณ์ในการเขียน Blog และอยู่ในวงการออนไลน์ มามากกว่า 10 ปี Youtube : Turnoff Chennel / ผู้ก่อตั้งกลุ่ม สอน SEO in Thailand / www.turnoffweb.com
อาคารสำเร็จรูปคือประเภทของการก่อสร้างที่ใช้ส่วนประกอบมาตรฐานและส่วนประกอบสำเร็จรูปเพื่อสร้างอาคารได้อย่างรวดเร็วและคุ้มค่า อาคารสำเร็จรูปได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะ และมักใช้กับงานอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม เช่น โกดัง โรงงาน และอาคารสำนักงาน ส่วนประกอบที่ใช้ในอาคารสำเร็จรูปออกแบบมาให้ประกอบได้ง่ายในสถานที่ทำงาน และมักประกอบด้วยผนัง พื้น หลังคา และองค์ประกอบโครงสร้างอื่นๆ ข้อดีของอาคารสำเร็จรูป (PEB): ประหยัดต้นทุน: PEB มักจะถูกกว่าวิธีการสร้างแบบดั้งเดิม เนื่องจากการออกแบบและกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ซึ่งส่งผลให้เกิดการประหยัดต่อขนาด การก่อสร้างที่รวดเร็ว: PEB สามารถสร้างได้ค่อนข้างเร็ว ลดเวลาที่ต้องใช้ในการก่อสร้างและลดการหยุดชะงักในการดำเนินธุรกิจ ความยืดหยุ่น: PEB สามารถออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงการใช้งานในอุตสาหกรรม เชิงพาณิชย์ และเกษตรกรรม ประหยัดพลังงาน: PEB สามารถออกแบบให้ประหยัดพลังงาน ลดต้นทุนการดำเนินงาน และเพิ่มความยั่งยืน ความทนทาน: โดยทั่วไปแล้ว PEB จะทำจากวัสดุคุณภาพสูงซึ่งออกแบบมาให้ใช้งานได้นานหลายปี ทำให้เป็นการลงทุนที่ทนทานและใช้งานได้ยาวนาน ข้อเสียของอาคารสำเร็จรูป (PEB): การปรับแต่งที่จำกัด: กระบวนการออกแบบที่เป็นมาตรฐานของ PEB อาจจำกัดตัวเลือกการปรับแต่งเมื่อเทียบกับวิธีการสร้างแบบดั้งเดิม การเตรียมไซต์: PEB ต้องการไซต์ที่ได้ระดับและมั่นคงสำหรับการติดตั้งที่เหมาะสม ซึ่งสามารถเพิ่มต้นทุนและความซับซ้อนของโครงการได้ การพึ่งพาผู้ผลิต: PEB พึ่งพาผู้ผลิตอย่างมากในการออกแบบ การผลิต และการจัดส่ง ซึ่งอาจจำกัดตัวเลือกและการควบคุมของผู้ซื้อ…
แม้ว่าอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้เสมอแบบที่เราคาดการณืไม่ถึง แต่เพื่อเป็นการลดความรุนแรงเหล่าผู้ประกอบการและพนักงานควรจะทราบถึงสาเหตุ หากละเลยไม่เพียงแค่ทรัพย์สินเท่านั้นที่จะได้รับความเสียหาย อาจต้องมีการสูญเสียชีวิตและอวัยวะที่สำคัญ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง แล้วต้นตอหรือสาเหตุของการเกิดนั้นมาจากอะไรและเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงจะต้องทำอย่างไรบ้าง วันนี้เรามีคำตอบ ค้นคำตอบ ความ ปลอดภัย ใน โรงงาน คืออะไร ความ ปลอดภัย ใน โรงงาน หมายถึง สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ถูกออกแบบไว้อย่างถูกต้องและสะดวกต่อผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งไม่เพียงส่งผลในเรื่องทั้งของทรัพย์สินเท่านั้น ยังหมายถึงร่างกายหรือชีวิต ในส่วนของเรื่องอุบัติเหตุคือสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอโดยที่ไม่มีใครคาดถึง นำมาซึ่งความเสียหายทั้งทรัพย์สินและรางกายชีวิต ลดเกิดการอุบัติเหตุ ต้องรู้สาเหตุ เพื่อ ความ ปลอดภัย ใน โรงงาน ภายในโรงงานเต็มไปด้วยความเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง เพราะด้วยขนาดเครื่องจักรและกำลังการขับเคลื่อนั้นมีมาก ฉะนั้นก่อนที่จะเกิดเรื่องร้าย ๆ ขึ้นเราไปดูกันว่ามีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง ดังนี้ ขาดความรู้และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ความประมาท ร่างกายไม่สมบูรณ์ มีความบยกพร่องของอุปกรณ์เครื่องมือและเครื่องจักร สภาพแวดล้อมหรือบริเวณปฏิบัติงานไม่ปลอดภัย จากสาเหตุทั้งหมดที่เรากล่าวไปเกิดขึ้นเพราะความประมาทและการไม่ศึกษาวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง ฉะนั้นทั้งตัวผู้ประกอบการและคนทำงานจะต้องให้ความสำคัญกับวิธีการต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ในข้อถัดไปเราจะไปดูกันว่ามีวิธีใมดแก้ไขได้บ้าง เพื่อเป็นแนวทางให้แก่ผู้ประกอบการทั้งหลายรวมถึงพนักงาน รวม 3 วิธีการป้องกันอุบัติเหตุ วิธีที่ 1…
ประตูโรงงานนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ในการเลือกใช้ประตู ซึ่งปัจจุบันมีการใช้ประตูโรงงานมากมายหลายประเภทมาก ๆ ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ประตูม้วนมีกี่แบบ สำหรับคนที่กำลังมองหาประตูม้วนที่ใช้ในร้านค้า บ้าน หรือ สถานที่ต่าง ๆ แต่ไม่รู้ว่ามันมีกี่แบบ และ แต่ละแบบเหมาะสมกับการใช้งานแบบไหนบ้าง วันนี้เราจะมาพูดในเรื่องนี้กัน เพื่อให้คุณเข้าใจและเลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง เรามาลองศึกษาเรื่องนี้ไปพร้อม ๆ กันดีกว่า ประตูม้วน คืออะไร ประตูม้วน หรือ บานชัตเตอร์ เป็นประตูชนิดหนึ่งที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี โดยเฉพาะตามร้านค้ามักจะติดตั้งประตูตัวนี้กัน เพราะว่าประตูตัวนี้จะช่วยปกป้องร้านค้าจากการโจรกรรมได้ และ ในปัจจุบันนี้ยังมีนวัตกรรมใหม่ ๆ จากต่างประเทศทั้งในโซนยุโรปและเอเชีย ทำให้บางครั้งผู้ที่ต้องการใช้งานก็ไม่รู้ว่าควรเลือกแบบไหนดี งั้นเรามาดูกันว่า ประตูม้วนนั้นมีประเภทไหนบ้าง ประตูม้วนแบบมูลี่ นิรภัย ประตูม้วนแบบนี้จะผลิตจากอลูมิเนียมหนา และ มีช่องแสงให้ลอดผ่าน โดยคุณสามารถควบคุมปริมาณแสงที่ลอดผ่านประตูได้ตลอดเวลา หลายคนจึงเลือกใช้ประตูม้วนแบบนี้ แต่อย่างไรก็ตาม การที่จะเลือกมูลี่แบบนิรภัยนั้น คุณจะต้องเลือกร้านที่มีความน่าเชื่อถือด้วย เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน ได้รับคำแนะนำที่ดีด้วย ประตูม้วนอลูมิเนียมไส้โฟม ประตูม้วนนี้จะทำจากอะลูมิเนียม แต่ว่าจะมีชนวนกันความร้อนโพลียูรีเทนบแทรกเข้าไปใบประตูด้วย เพราะฉะนั้นบ้านไหนที่มีอาคารหรือกระจกเยอะ ๆ ประตูม้วนแบบนี้จะได้รับความนิยมอย่างมากเลย หากคุณต้องการประตูม้วนแบบนี้ คุณจะต้องสอบถามจากทางร้านให้ดี ทางร้านจะมีคำแนะนำที่ดีให้แน่นอน…
สร้างโรงงานต้องเตรียมอะไรบ้าง อยากมีโรงงานเป็นของตัวเองทำได้ไม่ยาก ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่อยากมีโรงงานเป็นของตัวเองนั้น มีอยู่ 5 ขั้นตอนด้วยกันที่ต้องเรียนรู้ เมื่อเริ่มทำธุรกิจจนมีผลกำไรได้ระดับหนึ่ง ผู้ประกอบการหลายคนก็อาจมีความคิดที่อยากมีโรงงานเป็นของตัวเองเพื่อขยับขยายช่องทางการสร้างผลกำไร ลดต้นทุนจากการที่ต้องจาก Outsource มาผลิตสินค้าให้ แต่แม้ว่าจะมองเห็นโอกาสจากตรงนี้ การเริ่มสร้างโรงงานเป็นของตัวเองก็มีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึง มาดูกันเลยว่าสำหรับคนที่อยากมีโรงงานเป็นของตัวเอง ต้องเริ่มต้นจากอะไรบ้าง การสร้างโรงงานเป็นของตัวเองนั้นได้ง่ายเหมือนกับการสร้างบ้าน เพราะมีหลายปัจจัยที่จำเป็นต้องทราบเพื่อโอกาสทางธุรกิจที่มากกว่า โดยข้อแนะนำสำหรับผู้ที่อยากโรงงานเป็นของตัวเองนั้น มีอยู่ 5 ขั้นตอนด้วยกันที่ต้องเรียนรู้ ดังนี้ 1.แผนการที่ใช่จะทำให้เริ่มได้อย่างมั่นคง การสร้างโรงงานนั้นนับว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่ควรจะวางแผนเอาไว้ ก่อนเริ่มอย่างรอบคอบเพราะโรงงานแต่ละประเภทนั้นมีรูปแบบการก่อสร้างที่ไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของตัวอาคาร หรือโครงสร้างภายใน โดยสิ่งแรกที่ควรทราบก็คือ โรงงานที่กำลังสร้างนั้นมีจุดประสงค์เพื่อสินค้าประเภทใด เพื่อที่สถาปนิกจะสามารถออกแบบภายในโรงงานให้ถูกต้อง และผู้รับเหมาก่อสร้างได้ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะใช้งาน นอกจากนี้ อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงสำหรับผู้ที่อยากมีโรงงานนั่นก็คือ งบประมาณที่มีและความคุ้มค่า เพราะนอกจากค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างแล้วยังมีเครื่องจักรอุตสาหกรรมจำนวนมากที่มีราคาค่อนข้างสูงรวมไปถึงการว่าจ้างพนักงานในอนาคตอีกด้วย ดังนั้นจึงควรคำนวณเอาไว้ให้ดีว่า งบประมาณที่คุณนำไปใช้ก่อสร้างโรงงานนั้นเพียงพอหรือไม่ คุ้มค่ากว่าการจ้าง Outsourve ผลิตแค่ไหน และต้องใช้เวลานานเท่าใดจึงจะคืนทุน 2.ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง การสร้างโรงงานไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงทำเลก็ได้ แต่จริง ๆ แล้วการมีทำเลที่ดีก็สร้างข้อได้เปรียบให้กับโรงงานหลายประการ เนื่องจากโรงงานนั้นจำเป็นต้องมีการนำสินค้าจำนวนมากเข้าออกบ่อยครั้ง การเลือกทำเลที่รถบรรทุกขนดใหญ่สามารถเดินทางได้สะดวกจึงสำคัญมาก หรือถ้าสามารถเลือกที่ดินติดทะเลหรือแหล่งน้ำได้ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้าได้อีกเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น…
ในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง มีการเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้นในปี 2566 คุณสามารถคาดหวังได้ว่าจะได้เห็นเทคโนโลยีและวิธีการก่อสร้างใหม่ๆ ได้รับการพัฒนา ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงในวิธีการใช้คนงาน ไม่ว่าคุณจะเป็นคอนสตรัคเตอร์ที่มีประสบการณ์และกำลังมองหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอนาคตของการก่อสร้าง หรือแค่อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราก็มีเนื้อหาครอบคลุมให้คุณ อุตสาหกรรมการก่อสร้างคือภาพรวม อุตสาหกรรมการก่อสร้างเป็นสาขาที่เติบโตอย่างรวดเร็วซึ่งมีพนักงานหลายล้านคนทั่วโลก ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อุตสาหกรรมนี้คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายเนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและแนวโน้มของตลาดใหม่ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ จะมีการใช้การพิมพ์ 3 มิติและเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมอื่นๆ ในอุตสาหกรรมการก่อสร้างเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ภาคธุรกิจยังคาดการณ์ว่าจะเห็นการเพิ่มขึ้นของการใช้วิธีการก่อสร้างแบบดั้งเดิม เช่น ร้านค้าที่มีหน้าร้านจริงและการสั่งซื้อทางออนไลน์ ทำไมต้องลงทุนในอุตสาหกรรมก่อสร้าง มีเหตุผลหลายประการที่ธุรกิจควรลงทุนในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ภาคส่วนนี้มีโอกาสมากมายสำหรับบริษัทต่างๆ ในการทำเงิน ได้แก่: 1) กำไรที่เพิ่มขึ้นจากโครงการก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน 2) ค่าแรงต่ำเนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและเทคนิคการจัดการ 3) การเข้าถึงตลาดต่างประเทศ 4) ค่าจ้างตกต่ำในต่างประเทศเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ 5) เพิ่มการเข้าถึงเงินทุนและทรัพยากร 6) โอกาสในการเติบโตในภาคเทคโนโลยี 7) บทบาทในประเทศกำลังพัฒนา 8) การอนุรักษ์คุณค่าวัฒนธรรมดั้งเดิมในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง 9) การเริ่มต้นใหม่สำหรับธุรกิจใหม่ในสาขาที่ยากจะเข้าสู่ 10) ศักยภาพในการสร้างงานใหม่และกระตุ้นเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมก่อสร้างในปี 2566 อุตสาหกรรมการก่อสร้างเป็นสาขาที่กว้างขวางและหลากหลายซึ่งครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กและผู้สร้างบ้านไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่และโครงการระดับโลก ในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า อุตสาหกรรมการก่อสร้างพร้อมที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ต่อไปนี้คือแนวโน้มที่สำคัญที่สุดบางส่วนในอุตสาหกรรม: 2.1 อุตสาหกรรมก่อสร้างกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว:…
เพื่อไม่ให้เป็นการลงทุนที่เสียเปล่า หรือฉุดให้การเงินภายในธุรกิจเราขาดทุน แนะนำให้พิจารณาทั้ง 7 ข้อ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มต้น การทำโรงงานเป็นของตัวเองจะช่วยส่งเสริมในด้านของคุณภาพการผลิต การบริหารคลังสินค้า และช่วยให้การส่งออกกระจายผลิตภัณฑ์เป็นเรื่องง่ายขึ้น ส่งผลต่อการเติบโตด้านธุรกิจในระยะยาว แต่การจะสร้างโรงงานเป็นของตัวเอง นั่นไม่ใช่ว่าจะทำได้ง่าย ๆ เพราะมีปัจจัยมากมายให้ต้องคำนึง หากมีการเตรียมตัวและศึกษาให้พร้อมก่อน จะช่วยลดความยุ่งยาก และป้องกัน ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ก่อนที่จะเริ่มต้นทำโรงงานนั้น มีปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงก่อนเริ่มต้นสร้างเป็นอย่างมาก ไม่วาจะเป็นในเรื่องของงบประมาณการก่อสร้าง รวมถึงมาตรฐานภายในที่เพียงพอ โดยสามารถแบ่งได้เป็น 7 ประเด็นหลัก ๆ ที่ควรศึกษาอย่างถี่ถ้วน มีดังต่อไปนี้ 1.ประเภทของโรงงานและการยื่นคำขออนุญาต ในขั้นตอนแรกเริ่มของการทำโรงงานนั้น จำเป็นที่จะต้องมีการยื่นเรื่องเพื่อขออนุญาตเปิดให้ถูกกฎหมาย แต่ก่อนที่จะไปถึงขั้นตอนนั้น ต้องตรวจสอบก่อนว่าโรงงานที่คุณตั้งใจจะทำนั้นจัดอยู่ในประเภทใด ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 ได้แบ่งโรงงานออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ทั้งนี้โรงงานทุกประเภทจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามกฏที่กำหนดจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมอย่างเคร่งครัด รวมถึงรับฟังและปฏิบัติตามหากมีการประกาศชี้แจงเพิ่มเติมด้วย 2.ตรวจสอบข้อห้ามสถานที่ตั้ง ไม่ใช่ทุกสถานที่ที่สามารถทำการปลูกสร้างโรงงานได้ในทันที หากไม่ทันศึกษาให้ดีก่อนแล้วไปสร้างในสถานที่ต้องห้าม อาจต้องเสียค่าชดเชยจำนวนมหาศาล อีกทั้งยังต้องเสียค่ารื้อถอนอีก เมื่อได้ทราบแล้วว่าโรงงานที่คุณต้องการจะสร้างนั้นจัดอยู่ในโรงงานประเภทอะไร คราวนี้มาดูกันว่าตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว โรงงานแต่ละประเภทสามารถจัดตั้งได้ที่บริเวณไหนบ้าง…
การก่อสร้างเป็นส่วนสำคัญของภาคอุตสาหกรรมและการผลิตในปี 2020 คาดว่าการก่อสร้างจะคิดเป็น 24% ของ GDP โลกภายในปี 2025.1 กุญแจสู่ความสำเร็จในการก่อสร้างในอนาคตคือการรักษาสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน คุณต้องการทั้งวัสดุที่เหมาะสมและแรงงานที่เหมาะสมในการสร้างสิ่งต่างๆ แต่คุณต้องตามให้ทันกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้วย ต่อไปนี้คือแนวโน้ม 4 ประการที่จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการก่อสร้างในปี 2573: อุตสาหกรรมก่อสร้างกำลังเติบโต บทความนี้กล่าวถึงอุตสาหกรรมการก่อสร้างที่เติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตนี้ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลก ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และความต้องการที่อยู่อาศัยและโครงการโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น อุตสาหกรรมการก่อสร้างกำลังเติบโตเนื่องจากปัจจัยหลายประการ สาเหตุหลายประการที่ทำให้อุตสาหกรรมการก่อสร้างเติบโตขึ้น ได้แก่: 1) โครงการก่อสร้างที่ซับซ้อนมากขึ้นกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการแรงงานมีฝีมือเพิ่มขึ้น 2) ต้นทุนวัสดุและแรงงานที่สูงขึ้นทำให้บริษัทต่างๆ หาวิธีประหยัดเงินในการสร้างได้ยากขึ้น 3) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีช่วยให้บริษัทลดต้นทุนโดยใช้วิธีการก่อสร้างที่มีราคาไม่แพง เช่น การพิมพ์ 3 มิติและซอฟต์แวร์เสมือนจริง และ 4) ความนิยมของที่พักให้เช่าช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ค้นพบวิธีใหม่ๆ ในการประหยัดค่าที่พัก ภาคการก่อสร้างกำลังเติบโตในปริมาณมาก ภาคการก่อสร้างคาดว่าจะเติบโตในปริมาณ 2.5% ในปี 2564 และ 5.0% ในปี 2566 การเติบโตนี้เกิดจากความต้องการที่อยู่อาศัย การขนส่ง และโครงการอุตสาหกรรมและการผลิตอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น…
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการสร้างโกดังคลังสินค้า ก่อนที่เราจะลงทุน สร้างโกดังสินค้า หรือโรงงาน ข้อมูลที่เราต้องศึกษามีส่วนสำคัญอย่างมากในการตัดสินใจก่อนลงทุนสร้าง มีอยู่ 5 ข้อเป็นอย่างน้อยที่เราต้องทำการบ้านก่อนดังต่อไปนี้ 1.Zoning เราต้องทราบก่อนว่าพื้นที่ที่เราจะตัดสินใจลงทุนสร้างนั้น อยู่ในเขตพื้นที่สีอะไร โดยพื้นที่เขตสีม่วง เป็นเขตพื้นที่ที่สามารถ สร้างโกดังสินค้า หรือโรงงานได้ตามข้อกำหนด หากเป็นสีอื่น ควรปรึกษาทางเขตหรือเทศบาลเกี่ยวกับข้อกำหนดการก่อสร้างต่าง ๆ 2.ขนาดอาคารที่จะก่อสร้างรวมไปถึงระยะร่นต่าง ๆ เราควรศึกษาข้อกำหนดระยะร่นของการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นจากคำนำของผู้รับเหมาเองหรือในส่วนของทางเขตและเทศบาลเพื่อที่จะนำมาเป็นข้อมูลในการกำหนดขนาดของอาคารที่จะก่อสร้างจากพื้นที่ที่เรามี 3.รายละเอียดงานก่อสร้าง หลังจากที่ได้ขนาดอาคารที่จะก่อสร้างแล้ว เราต้องออกแบบรายละเอียดหรือฟังก์ชั่นต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง เช่น มีสำนักงานกี่ห้อง ห้องน้ำกี่ห้อง มีชั้นลอยหรือติดเครนหรือไม่ โดยการออกแบบจะปรึกษาผู้รับเหมาเพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องต่าง ๆ 4.การคัดเลือกผู้รับเหมาในการก่อสร้าง ควรคัดเลือกผู้รับเหมาที่จะมารับงานก่อสร้างอย่างละเอียด สิ่งสำคัญคือความน่าเชื่อถือและประสบการณ์ในการทำงาน เพราะการลงทุน สร้างโกดังสินค้า หรือโรงงาน เป็นการลงทุนก้อนใหญ่ที่เราต้องไว้ใจให้ผู้รับงานไป ดำเนินงานได้ลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เกิดปัญหาระหว่างการทำงาน ไม่เกิดปัญหาระหว่างการทำงาน ไม่เกิดการทิ้งงาน งานจบตรงเวลา และได้คุณภาพตามที่เราได้ลงทุนไป โดยทั่วไปแล้ว ผู้รับเหมาในรูปแบบบริษัทจำกัด จะมีภาษีที่ดีกว่าในเรื่องที่กล่าวมา …
ในการทำธุรกิจอาหารขนาดใหญ่หรือมีโรงงานผลิต จะต้องผ่านมาตรฐาน GMP คือ ตัวที่พิสูจน์คุณภาพจากกลุ่มนักวิชาการด้านอาหารทั่วโลก ว่าโรงงานเหล่านั้นมีการผลิตที่ปลอดภัย ซึ่งจะมีการประเมิณตามปัจจัยต่าง ๆ อาทิ สิ่งแวดล้อม กระบวนการผลิต การสุขาภิบาล การรักษาความสะอาดไปจนถึงการซ่อมบำรุงและบุคลากร เหล่านี้เจ้าของกิจการต้องได้รับการตรวจสอบก่อนจึงจะก่อตั้งโรงงานได้ ฉะนั้นเราไปเรียนรู้พร้อม ๆ กันว่าการสร้างโรงงานที่ถูกต้องนั้นควรเป็นอย่างไร ข้อควรรู้เมื่อต้องทำโรงงานผลิตอาหารตามหลัก GMP 1.การเลือกสร้างสถานที่ตั้งโรงงานและอาคารผลิต 2.เพื่อป้องกันอันตรายและความเสียหายศึกษาเรื่องเครื่องจักรและอุปกรณ์ในการผลิต เนื่องจากอันตรายสามารถเกิดขึ้นได้หากผู้ใช้งานไม่ทราบถึงข้อควรระวังหรือวิธีใช้ที่ถูกต้อง อย่างภาชนะหรืออุปกรณ์บางชนิดเมื่อสัมผัสกับอาหารอาจทำปฏิกิริยาบางอย่างกับอาหารทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตรายหากทานเข้าไป จากตัวอย่างนี้จึงทำให้เห็นว่าการศึกษาวิธีใช้มีความสำคัญอย่างมากในการเป็นผู้ผลิตและยังมีอื่น ๆ อีก ดังนี้ 3.การควบคุมคุณภาพด้านกระบวนการผลิต ในการผลิตอาหารต้องอยู่ภายใต้การควบคุมตามหลักสุขาภิบาล เริ่มที่การตรวจรับวัตถุดิบและส่วนผสม การเตรียม บรรจุ ผลิต การขนย้าย การเก็บรักษาอาหารและการขนส่ง เหล่านี้จะทำให้อาหารมีมาตรฐาน คุณภาพตามหลัก GMP ซึ่งเจ้าของกิจการทั้งหลายต้องให้ความสำคัญ เพื่อให้เข้าใจกระบวนการผลิตอาหารมากขึ้น เราไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้ นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดอีกมากมาย ซึ่งเจ้าของกิจการต้องศึกษาอีกครั้งไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึกระหว่างการดำเนินการที่ต้องควบคุมกระบวนการผลิตทั้งหมด เหล่านี้ล้วนส่งผลต่อคุณภาพของอาหารทั้งสิ้น 4. ความสะอาดภายในโรงงานหรือระบบสุขาภิบาล ภายในโรงงานผลิตอาหารต้องเลือกใช้น้ำที่มีความสะอาดและมีคุณภาพ อย่างเหมาะสมกับกรรมวิธีต่าง ๆ ไม่เพียงเท่านี้ในส่วนของห้องสุขาเองก็ต้องมีความสะอาด มีอ้างล่างมือให้ผู้ทำงานได้ใช้อย่างถูกสุขลักษณะพร้อมอุปกรณ์ในการล้างทำความสะอาดมือ ที่สำคัญต้องมีการแยกจากบริเวณผลิตไม่ให้เปิดสู่บริเวณผลิตโดยตรง จากข้อมูลข้างต้น…
ในประเทศไทยมีการแบ่งประเภทโรงงานทั้งสิ้น 107 โรงงาน ซึ่งนับได้ว่ามีจำนวนที่เยอะมาก และยากต่อการเขียนมากพอสมควร ถ้าพูดถึงโรงงาน จะเห็นได้ว่าโรงงานส่วนมากมักถูกกำหนดให้เป็นสิ่งที่ทำให้สิ่งต่างๆ รวดเร็ว ฉับไว และทำได้ในปริมาณมาก เราจะต้องนึกถึงการก่อสร้างและนำหลักอุตสาหกรรมเข้ามาช่วย หากจะแบ่งตามกลุ่มใหญ่ๆ จะง่ายกว่าการจำแนกแบบกลุ่มของโรงงานในประเทศไทยมากพอสมควร การก่อสร้างจะต้องยกระดับความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นลักษณะแบบโรงงานผลิตหรือโรงงานผลิตเป็นโรงงานอุตสาหกรรม โดยปกติแล้วจะประกอบด้วยอาคารและเครื่องจักร หรือโดยทั่วไปแล้วจะเป็นอาคารที่ซับซ้อนซึ่งมีอาคารหลายหลัง ซึ่งคนงานจะผลิตสินค้าหรือใช้เครื่องจักรที่แปรรูปผลิตภัณฑ์หนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง แม้แต่อุปกรณ์ก่อสร้างก็ต้องผ่านระบบอุตสาหกรรมเข้ามาด้วย เราไม่สามารถแบ่งประเภทโรงงานได้ละเอียดขนาดนั้นมากนัก แต่การแบ่งประเภทโรงงานตามลักษณะการก่อสร้าง ซึ่งในต่างประเทศจะมีครบครันตามต้องการมากกว่าในไทย ซึ่งในไทยจะไม่ค่อยมีความชัดเจนในรูปธรรมมากนักเนื่องจากข้อจำกัดการใช้สอย โดยจะแบ่งประเภทโรงงานตามลักษณะขอบเขตและการก่อสร้างได้ดังนี้ Aerospace industry : ในการจำแนกโรงงานกลุ่มนี้จะเป็นโรงงานที่เกี่ยวกับวิศวกรรมอวกาศ หากเป็นกลุ่มประเทศในสหรัฐอเมริกา รัสเซีย จีน ฝรั่งเศส จะมีผลิตภัณฑ์จากกลุ่มนี้เยอะมาก แต่ในประเทศไทยจะเน้นในการทำเพื่อการศึกษาเป็นหลัก เพราะยังไม่มีการทำและก่อสร้างเป็นโครงการเต็มรูปแบบโดยเฉพาะ เช่น เครื่องมือแบบท้องฟ้าจำลอง เครื่องมือที่ใช้ในสาขาวิศวกรรมการบินและอวกาศ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ Automotive industry : ในประเภทโรงงานกลุ่มนี้จะเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ การก่อสร้างจะต้องมีความรัดกุมในด้านความปลอดภัย และรองรับความจุของการผลิต การประกอบชิ้นส่วน แม้แต่การเพิ่มโซนซ่อมบำรุง จะต้องมีความกว้างและเนื้อที่มากพอที่รถจะปรับทิศทางในการขับขี่ได้ เช่น Honda, Toyota, Mitsubishi, MG, GWM,…